ฉีดโบยี่ห้อหนึ่งมา จะเปลี่ยนมาฉีดอีกยี่ห้อ ได้ไหม?
- Nabi
- 3 ก.ย.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา
หลายคนที่เคยฉีดโบมาก่อน มักจะสงสัยว่า…“ถ้าเคยฉีดยี่ห้อหนึ่งไปแล้ว ครั้งต่อไปสามารถเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นได้ไหม?”

ความกังวลนี้เกิดจากการที่โบแต่ละแบรนด์มีชื่อแตกต่างกันไป บางคนได้ยินว่าหน่วยยาไม่เท่ากัน บางคนกลัวว่าตัวยาจะตีกัน หรือกลัวว่าถ้าเปลี่ยนแล้วผลลัพธ์จะไม่สวยเหมือนเดิม จึงลังเลที่จะตัดสินใจ แม้จริง ๆ แล้วโบท็อกซ์ทุกแบรนด์ทำงานในหลักการเดียวกัน คือช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดเลือนริ้วรอย
บทความนี้จะพาคุณมาเจาะลึกแบบครบถ้วนว่า การเปลี่ยนยี่ห้อโบทำได้หรือไม่ มีข้อควรระวังอะไร และควรเตรียมตัวอย่างไรหากคิดจะสลับยี่ห้อค่ะ
สั้นๆ ก่อนเลยค่ะ: ทำได้ ✅ เปลี่ยนยี่ห้อโบได้ในทางปฏิบัติ ถ้าวางแผน “ช่วงเวลา–ปริมาณ–ตำแหน่ง” ให้เหมาะสมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่มีรายละเอียดสำคัญที่ควรรู้ก่อนเปลี่ยน อ่านต่อเลย
1) ทำไม “เปลี่ยนยี่ห้อ” ถึงทำได้?
โบแทบทุกแบรนด์ในตลาดความงามเป็น Botulinum toxin type A กลไกเหมือนกัน: ไปยับยั้งการหลั่ง acetylcholine ที่รอยต่อประสาท–กล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและริ้วรอยลดลง (พูดง่ายๆ คือ “สั่งให้กล้ามเนื้อพัก”)
หลายยี่ห้อ โดยเฉพาะของเกาหลี ใช้สายพันธุ์เดียวกัน ตัวอย่างเช่น Neuronox เองเป็น Botulinum toxin type A ที่ขึ้นทะเบียนในเกาหลี โดยระบุชัดว่าได้มาจาก Clostridium botulinum สายพันธุ์ Hall strain เช่นเดียวกับโบดังหลายตัว เช่น Nabota, Aestox, Hugel, Hutox, Botulax (ข้อมูลทะเบียน MFDS ของเกาหลี)
ความแตกต่างเพียงกระบวนการผลิต ใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ตัวเลขความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์ไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ค่าความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์เกาหลีหลายยี่ห้ออยู่ในช่วงที่สูงมากอยู่แล้ว และหลายยี่ห้อดังมีโอกาสดื้อต่ำทั้งหมด เมื่อมีการกำหนดปริมาณในการฉีด และเว้นระยะการฉีดอย่างเหมาะสมค่ะ
แปลว่าในเชิงหลักการ “คนละยี่ห้อ แต่สายพันธุ์เดียวกัน ทำงานคล้ายกัน” จึง สลับยี่ห้อ ได้ หากจัดการเรื่องเวลาและขนาดยาให้ถูกต้อง
2) แต่ระวัง “ยูนิต” ไม่เท่ากันนะ! (จุดที่คนมักพลาด)
หน่วยยูนิตของแต่ละยี่ห้อ อาจไม่เท่ากัน ห้ามเทียบข้ามกัน — ระบุไว้ในเอกสารกำกับยาหลายแบรนด์ เช่น BOTOX (Allergan), Nabota และ DYSPORT ว่า Units are not interchangeable แปลว่า 1 ยูนิตของยี่ห้อหนึ่ง ≠ 1 ยูนิตของอีกยี่ห้อหนึ่ง หมอต้องคำนวณใหม่ทุกครั้ง
ข้อสรุปเชิงปฏิบัติ: เปลี่ยนยี่ห้อ = เปลี่ยนสูตรคำนวณโดส อย่าใช้ “เลขเดิม” จากยี่ห้อก่อนหน้า

3) ต้องเว้นระยะนานแค่ไหนก่อนเปลี่ยน?
หลักฐานกำกับยาระบุให้ เว้นอย่างน้อย ~12 สัปดาห์ (3 เดือน) ก่อนทำการฉีดซ้ำ/รอบใหม่ในหลายข้อบ่งชี้ (เพื่อให้ฤทธิ์รอบก่อนคลี่คลายและลดความเสี่ยง)
ภาษาคลินิก: ส่วนใหญ่แพทย์จะวาง “รอบทบทวน” ราว 3–4 เดือน หลังจากนั้นค่อยพิจารณาเปลี่ยนยี่ห้อหรือปรับแผน หากจำเป็น
4) เปลี่ยนยี่ห้อแล้ว “ดื้อยา” ง่ายขึ้นไหม?
ความเสี่ยงเกิด แอนติบอดี (neutralizing antibodies) ขึ้นอยู่กับ ขนาดยา, ความถี่, และองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ (เช่นโปรตีนร่วม/complexing proteins) บทความ Review Article ปี 2024 ชี้ว่า ปัจจัยด้านโดสและความถี่ สำคัญมาก—ฉีดบ่อย/โดสสูงเกินจำเป็นเพิ่มความเสี่ยงได้ (ถึงแม้โดยรวมความเสี่ยงยังต่ำ)
โอกาสดื้อโบท็อกซ์จากการเปลี่ยนยี่ห้อนั้นต่ำ แต่การฉีดที่บ่อยเกินไป แม้จะเป็นยี่ห้อเดิมก็ตาม น่ากังเรื่องดื้อโบมากกว่าค่ะ
ทิปป้องกัน: อย่า “ฉีดถี่” หรือ “เติมโบทุกเดือน” ให้คงแผนตามวงรอบ 3–4 เดือน เว้นกรณีแพทย์ประเมินว่ามีเหตุผลทางการแพทย์ที่ต้องปรับแผน
5) แล้ว Neuronox เทียบกับแบรนด์ดังๆ ได้ไหม?
มีงานวิจัยเปรียบเทียบกับ BOTOX ในภาวะตากระตุก (blepharospasm) พบว่า ประสิทธิภาพและความปลอดภัยใกล้เคียงกัน (ไม่ได้แปลว่า “ยูนิตเท่ากัน” แต่หมายถึง เมื่อใช้ตามแนวทางที่เหมาะสม)

6) ความต่างที่ควรคุยกับหมอก่อนจะ “สลับยี่ห้อ”
การกระจายของยา (diffusion) – บางยี่ห้อฟีลกระจายมาก–น้อยต่างกัน ส่งผลต่อความละเอียดในการวางจุด
ระยะเริ่มออกฤทธิ์/อยู่นานแค่ไหน – ขึ้นกับผลิตภัณฑ์และร่างกายแต่ละคน
สารตั้งต้น/ตัวช่วยละลาย – แต่ละแบรนด์ใช้ excipients ต่างกัน ส่งผลต่อการจัดการ/ความเสถียรและ (เล็กน้อย) ต่อภูมิคุ้มกัน (หลักฐานเชิงกลไกเรื่องโปรตีนร่วมมีผลต่อภูมิคุ้มกัน)
7) คำแนะนำเชิงปฏิบัติ (แบบอ่านแล้วทำตามได้เลย)
ก. ก่อนมาคลินิก
เตรียม “ประวัติการฉีด” รอบก่อน: ยี่ห้อ–ยูนิต–ตำแหน่ง–วันที่ฉีด
เว้นระยะให้พอ: อย่างน้อย ~12 สัปดาห์ จากรอบก่อน (ยกเว้นแพทย์เห็นข้อบ่งชี้เฉพาะเจาะจง)
ข. ตอนประเมินกับแพทย์
คุยชัดๆ ว่ารอบที่แล้วพอใจตรงไหน/ไม่พอใจตรงไหน เพื่อให้แพทย์ปรับ ตำแหน่ง–ปริมาณ
ระวังการขอ “ใช้เลขยูนิตเดิม” เพราะ ยูนิตอาจไม่เท่ากันเมื่อข้ามยี่ห้อ (ควรให้หมอเป็นคนคำนวณ conversion)
ค. หลังฉีด
อย่าประเมินเร็วไป—ส่วนใหญ่ประเมินผลเต็มๆ ประมาณ 14 วัน (ต่างยี่ห้ออาจเร็ว–ช้าเล็กน้อย)
หากมี “touch-up” แพทย์จะนัดตามความเหมาะสม (อย่าเติมโบถี่เอง ลดความเสี่ยงเรื่องภูมิคุ้มกัน)
8) คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ฉีดโบยี่ห้อ A มาเมื่อ 1 เดือนก่อน จะสลับเป็น Neuronox เลยได้ไหม?
A: โดยทั่วไป ยังไม่แนะนำ ให้เว้นใกล้ 3 เดือน (~12 สัปดาห์) เพื่อหลีกเลี่ยงการซ้อนทับของฤทธิ์และช่วยลดความเสี่ยงเรื่องภูมิคุ้มกัน/ผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็น
Q: ผลลัพธ์ Neuronox จะดีเท่าตัวท็อปอื่นๆ ไหม?
A: ขึ้นกับการวางแผนฉีดและสรีระของแต่ละคน งานเปรียบเทียบกับ BOTOX ในบางข้อบ่งชี้พบว่า ผลใกล้เคียงกัน เมื่อใช้ถูกวิธีโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
Q: ผสมหลายยี่ห้อใน “ครั้งเดียว” ได้ไหม?
A: ทางหลักการแพทย์ ไม่นิยมผสม ในครั้งเดียวเพราะทำให้การประเมินผลและความปลอดภัยซับซ้อนขึ้น และหน่วยยูนิตแต่ละยี่ห้อไม่เท่ากัน (หลีกเลี่ยงความสับสน)
9) ข้อควรหลีกเลี่ยง (เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เสถียร)
“ตามแก้ทุกอาทิตย์”/ฉีดถี่เกิน—เพิ่มความเสี่ยงภูมิคุ้มกัน โดยไม่จำเป็น ทำให้ดื้อง่าย
เลือกคลินิก/ผู้ฉีดที่ เข้าใจความไม่เท่ากันของยูนิต และมีประสบการณ์จริงกับหลายแบรนด์ (จะสลับยี่ห้อได้ปลอดภัยกว่า)
10) สรุปสบายใจ
เปลี่ยนยี่ห้อ จากโบตัวอื่นมาเป็นอีกตัวได้
เคารพ “กติกา 3 ข้อ”: เว้นระยะ (~12 สัปดาห์) → ให้แพทย์คำนวณใหม่ (เพราะยูนิตไม่เท่ากัน) → อย่าบูสต์ถี่
ทำครบ 3 ข้อนี้ โอกาสได้ผลลัพธ์ที่เนียน ปลอดภัย และสม่ำเสมอ จะสูงขึ้นอย่างชัดเจน
ความคิดเห็น