PRP ช่วยให้หน้าใสฉ่ำวาวได้ไหม?

Nabi
30 ม.ค.
ยาว 1 นาที

ในยุคที่ใครๆ ก็อยากมีผิวหน้าสวยใส อิ่มน้ำ และดูสุขภาพดีจากภายใน PRP (Platelet-Rich Plasma) กลายเป็นหนึ่งในเทคนิคความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะในยุโรป อเมริกา หรือแม้กระทั่งในเอเชีย โดยเฉพาะเกาหลี ซึ่งเป็นแหล่งเทรนด์ความงามที่ทั่วโลกจับตามอง แต่ PRP คืออะไร ทำงานอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง? มาทำความรู้จักกับเทคนิคนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ

PRP คืออะไร?

PRP (Platelet-Rich Plasma) คือเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้ เกล็ดเลือดเข้มข้น จากร่างกายของเราเอง ซึ่งอุดมไปด้วย Growth Factor สารสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผิวใหม่ โดยกระบวนการนี้ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมโทรม แต่ยังช่วยปรับสมดุลผิวให้ดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี และกระจ่างใส

การทำ PRP มีความปลอดภัยสูงมาก เพราะใช้เกล็ดเลือดของผู้เข้ารับบริการเอง จึงลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือการแพ้สารประกอบต่างๆ (Allergy)

สารสำคัญใน PRP และการทำงาน

เกล็ดเลือดใน PRP มี Growth Factor หลากหลายชนิดที่มีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นฟูและบำรุงผิว เช่น:

Platelet-Derived Growth Factor (PDGF): กระตุ้นการเติบโตและซ่อมแซมเซลล์
Transforming Growth Factor Beta (TGF-b): ช่วยปรับโครงสร้างผิว ลดความหย่อนคล้อย
Vascular Endothelial Growth Factor (VEGF): ส่งเสริมการสร้างเส้นเลือดฝอย เพิ่มออกซิเจนและสารอาหารให้ผิว
Epidermal Growth Factor (EGF): กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
Fibroblast Growth Factor (FGF): กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน

ขั้นตอนการทำ PRP

การทำ PRP เริ่มต้นด้วยการดูดเลือดจากต้นแขนเพียงเล็กน้อย (ประมาณ 10-20 ซีซี) และนำเข้าสู่กระบวนการ ปั่นแยกด้วยเครื่อง Centrifuge เพื่อแยกเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูง จากนั้นจึงนำเกล็ดเลือดที่แยกได้มาฉีดบนบริเวณที่ต้องการฟื้นฟู เช่น ใบหน้า ลำคอ หรือหลังมือ

🔹 ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่นาน (ประมาณ 30-45 นาที)🔹 ไม่มีสารเคมีหรือส่วนผสมแปลกปลอม เพราะทุกอย่างมาจากร่างกายของเราเอง

ผลลัพธ์ที่ได้จาก PRP

หลังการทำ PRP หลายคนพบว่าผิวหน้าของตนเองมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น:

ลดความหย่อนคล้อย: ผิวกระชับ เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์
กระตุ้นคอลลาเจน: ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวดูฟูขึ้น
แก้ปัญหาหลุมสิวและรูขุมขนกว้าง: เซลล์ผิวใหม่ที่เกิดขึ้นจะช่วยเติมเต็มและปรับผิวให้เรียบเนียน
ลดปัญหาผิวหมองคล้ำ: ผิวกระจ่างใส ดูขาวอมชมพู
ผิวฉ่ำวาว อิ่มน้ำ: ทำให้ผิวดูสุขภาพดี เหมาะกับเทรนด์ความงามยุคใหม่

ข้อดีของ PRP

ปลอดภัยสูง: เพราะใช้เลือดของตัวเอง
ไม่ต้องพักฟื้น: หลังทำสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ทันที
ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ: ผิวดูสวยใสโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี

PRP เหมาะกับใคร?

PRP เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้า ลดริ้วรอย ลดปัญหาหลุมสิว หรือเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวโดยไม่ต้องการวิธีที่ซับซ้อน PRP ยังเหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ง่าย เพราะไม่มีสารแปลกปลอม

ข้อควรรู้ก่อนทำ PRP

เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน: ควรเป็นคลินิกที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
ตรวจสอบประสบการณ์แพทย์: การทำ PRP ต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำ: เช่น หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด หรือการใช้เครื่องสำอางหนักในช่วง 1-2 วันแรก