โบท็อกซ์คลายตัวเร็ว? ปกติไหม?

ทำไมฉีดโบท็อกซ์ไปไม่นานแล้วคลายตัว เกิดอะไรขึ้นหลังจากฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยไปบ้าง แล้วเมื่อไหร่จะกลับมาเหมือนตอนไม่ฉีด?

โบท็อกซ์ (Botox) คือหนึ่งในการรักษายอดนิยมที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์ โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา หรือรอยขมวดคิ้ว

แต่คำถามที่หลายคนสงสัยหลังการฉีดก็คือ...

❓ "แล้วโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานแค่ไหน?"❓ "พอหมดฤทธิ์แล้ว หน้าจะเหี่ยวกว่าก่อนฉีดไหม?"❓ "โบท็อกซ์คลายตัวเร็วแค่ไหน?"

ในบทความนี้ Pure Clinic จะมาอธิบายแบบเจาะลึก พร้อมข้อมูลจากงานวิจัยทางการแพทย์ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

โบท็อกซ์ทำงานอย่างไร?

โบท็อกซ์ คือชื่อทางการค้าของ Botulinum toxin type A ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ทำหน้าที่ในการยับยั้งการส่งสัญญาณระหว่างเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดริ้วรอยจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ เช่น การยิ้ม การขมวดคิ้ว หรือการยกคิ้ว

เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อที่ต้องการพักการทำงาน สารนี้จะไป “บล็อก” การหลั่งสารสื่อประสาทชื่อ Acetylcholine ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยดูเรียบเนียนขึ้น

โบท็อกซ์คลายตัวเร็วแค่ไหน?

โดยทั่วไป โบท็อกซ์จะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 3-5 วัน และให้ผลสูงสุดที่ประมาณ 7-14 วัน หลังฉีด จากนั้นฤทธิ์จะอยู่ได้เฉลี่ย 3-6 เดือน แล้วแต่ปัจจัยของแต่ละบุคคล ได้แก่:

• ชนิดของโบท็อกซ์: โบท็อกซ์จากอเมริกา (เช่น Allergan) มักอยู่ได้นานกว่า 4-6 เดือน ส่วนโบท็อกซ์เกาหลีมักอยู่ได้ราว 4-5 เดือน

• ปริมาณที่ใช้: หากใช้ในปริมาณต่ำ หรือเน้นความเป็นธรรมชาติ ฤทธิ์อาจอยู่ได้ไม่นานเท่ากับการฉีดแบบเต็มโดส

• การดูแลหลังฉีด: พฤติกรรมบางอย่าง เช่น การออกกำลังกายหนัก การเข้าซาวน่า หรือสัมผัสความร้อนสูง การพยายามแสดงสีหน้าบ่อย อาจทำให้โบท็อกซ์คลายฤทธิ์เร็วขึ้น

• การตอบสนองของร่างกาย: บางคนเผาผลาญโบท็อกซ์ได้เร็วตามพันธุกรรม

📌 หลักฐานทางวิทยาศาสตร์:งานวิจัยจาก Journal of Aesthetic Dermatology ระบุว่า โบท็อกซ์มี half-life ของฤทธิ์ยับยั้งกล้ามเนื้อเฉลี่ยประมาณ 90 วัน ซึ่งสอดคล้องกับประสบการณ์ทางคลินิกว่าควรฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่คงที่

แล้วโบท็อกซ์คลายตัวได้ยังไง?

ฤทธิ์ของ Botulinum toxin type A จะไม่อยู่ถาวร เนื่องจากกลไกของร่างกายเรามีความสามารถในการ ซ่อมแซมและฟื้นฟูการเชื่อมต่อของเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อ (neuromuscular junctions) อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลาผ่านไป:

1. Botulinum toxin ถูกย่อยสลายโดยเอนไซม์ของร่างกาย ซึ่งจะค่อยๆ ลดการยับยั้งการปล่อยสารสื่อประสาท Acetylcholine

2. ร่างกายจะสร้างปลายประสาทใหม่ (axon sprouting) ที่สามารถเชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อได้อีกครั้ง

3. การเชื่อมต่อใหม่เหล่านี้จะกลับมาทำงานตามปกติ กล้ามเนื้อจึงเริ่มเคลื่อนไหวได้ → นี่คือสาเหตุที่ "ฤทธิ์ของโบท็อกซ์ค่อยๆ หมดลง" และริ้วรอยเริ่มกลับมา

   
   

📚 อ้างอิงจากวารสาร Neurology (Jankovic & Brin, 1991) ชี้ว่า Botulinum toxin type A ไม่มีผลถาวรต่อเส้นประสาท แต่เพียง "บล็อกการทำงานชั่วคราว" ขณะที่ร่างกายจะปรับตัวโดยการสร้าง synaptic connections ใหม่เรื่อยๆ หลังจาก 3-6 เดือน

แล้วถ้าไม่ได้ฉีดซ้ำ หน้าจะกลับมาเหมือนเดิมไหม?

คำตอบคือ: “ใช่”เมื่อโบท็อกซ์หมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อจะค่อยๆ กลับมาทำงานตามปกติ ริ้วรอยเดิมจะค่อยๆ กลับมา แต่จะไม่แย่ลงกว่าก่อนฉีด

ในความเป็นจริง ผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์ต่อเนื่อง อาจสังเกตได้ว่าริ้วรอยกลับมาช้าลง และดูจางลงแม้เวลาผ่านไป เพราะกล้ามเนื้อถูกพักการใช้งานมาระยะหนึ่ง ทำให้เส้นริ้วลึกๆ ไม่มีโอกาสพัฒนาเร็วเหมือนเดิม

ควรฉีดซ้ำเมื่อไหร่ดี?

แนะนำให้ฉีดซ้ำเมื่อเริ่มรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มกลับมาทำงาน เช่น ยิ้มแล้วตีนกาเริ่มชัดอีกครั้ง หรือขมวดคิ้วแล้วมีรอยย่น โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ 4-6 เดือนหลังจากครั้งก่อน

สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบต่อเนื่องและดูเป็นธรรมชาติ การวางแผนฉีดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยคงความเรียบเนียนและป้องกันไม่ให้ริ้วรอยพัฒนาเป็นร่องลึกในอนาคต

โบท็อกซ์ที่ Pure Clinic แตกต่างอย่างไร?

ที่ Pure Clinic บางนา เราให้บริการฉีดโบท็อกซ์โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้ตัวยาคุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองจาก อย. ทั้งจากเกาหลีและอเมริกา พร้อมวิเคราะห์ปัญหาเฉพาะจุด เพื่อให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง และอยู่ได้นาน

บริการของเราเหมาะทั้งสำหรับ:

• ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย และต้องการป้องกันร่องลึก

• ผู้ที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว

• ผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์มาแล้ว และต้องการต่อเนื่องผลลัพธ์

  
  

เช็กโปรโมชั่นโบท็อกซ์ล่าสุด