Ultraformer MPT: นวัตกรรมยกกระชับผิวล่าสุด ดีไหม? ช่วยเรื่องอะไร? เห็นผลไหม?

นวัตกรรมการยกกระชับผิวในปัจจุบันเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อให้การดูแลผิวหน้าและลำตัวมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ที่สามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังได้อย่างล้ำลึก การยกกระชับด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น แต่ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการรักษาความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวหนัง นอกจากนี้ยังช่วยลดริ้วรอยและสลายไขมันใต้ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัดหรือการฟื้นฟูที่ยาวนาน ทำให้ผู้ที่ต้องการดูแลผิวสามารถเข้าถึงบริการนี้ได้ง่ายขึ้นและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

Ultraformer MPT คืออะไร?

Ultraformer MPT (Ultraformer Micro-Pulse Technology) เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (MMFU: Micro & Macro Focused Ultrasound) เพื่อช่วยยกกระชับผิวหน้าและลำตัว ลดริ้วรอย พร้อมทั้งช่วยสลายไขมันใต้ผิวหนังในเครื่องเดียว ถือเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาใหม่ล่าสุดจาก Ultraformer III โดย Ultraformer MPT ได้รับการออกแบบให้ปล่อยพลังงานได้แม่นยำขึ้น ยิงเร็วขึ้น 2.5 เท่า เจ็บน้อยลง และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวได้ดียิ่งขึ้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้า ลดเหนียง ลดแก้ม และสลายไขมัน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น

Ultraformer MPT ได้รับการรับรองมาตรฐานจากทั้ง อย. ประเทศไทย และ KFDA ประเทศเกาหลี ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของ ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

หลักการทำงานของ Ultraformer MPT

Ultraformer MPT ใช้ เทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถปล่อยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงลงไปในชั้นผิวหนังได้อย่างแม่นยำ โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ได้แก่

1. Micro Focused Ultrasound (MFU)

• ส่งพลังงานความร้อน 65-75°C ลงไปที่ระดับความลึก 1.5 mm, 3.0 mm และ 4.5 mm

• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว

• เหมาะสำหรับการยกกระชับหน้า แก้ปัญหาริ้วรอยเล็ก ๆ ยกคิ้ว ยกหางตา ลดร่องแก้ม และเก็บกรอบหน้า

  
  

  

2. Macro Focused Ultrasound (MFU)

• ปล่อยพลังงานที่เข้มข้นมากกว่า Micro Focused Ultrasound ถึง 8 เท่า

• ยิงพลังงานลงลึกถึง 6 mm, 9 mm และ 13 mm

• ช่วย สลายไขมันส่วนเกิน และกระชับผิวบริเวณลำตัว เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เหนียง และรอบเอว

Ultraformer MPT มีจุดเด่นอะไรบ้าง?

Ultraformer MPT เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยและไขมันส่วนเกินได้อย่างครอบคลุม โดยมีจุดเด่นที่สำคัญดังนี้

1. ปล่อยพลังงานได้แม่นยำขึ้น พร้อมรูปแบบพลังงานที่หลากหลาย

Ultraformer MPT ใช้ เทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ซึ่งสามารถกำหนดตำแหน่งการปล่อยพลังงานได้อย่าง แม่นยำและตรงจุด โดยแพทย์สามารถเลือกใช้ 3 รูปแบบการปล่อยพลังงาน เพื่อให้เหมาะกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล

• Dot Mode – ปล่อยพลังงานเป็นจุด เหมาะสำหรับยกกระชับผิวบริเวณที่ต้องการความละเอียด เช่น รอบดวงตา ร่องแก้ม

• Linear Mode – ปล่อยพลังงานเป็นเส้นตรง ช่วยยกกระชับและสลายไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• Circle Mode – ปล่อยพลังงานเป็นวงกลม ทำให้พลังงานกระจายตัวได้ดี ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน

  
  

  

2. ยิงพลังงานเร็วขึ้น 2.5 เท่า ใช้เวลาทำสั้นลง ลดความเจ็บ

Ultraformer MPT ได้รับการพัฒนาให้สามารถ ยิงพลังงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยปล่อยพลังงานได้ถึง 417 dots ต่อ 1 shot ซึ่งเร็วกว่าเทคโนโลยีเดิมถึง 2.5 เท่า ทำให้ใช้เวลาในการรักษาน้อยลง และช่วยลดความรู้สึกเจ็บในระหว่างทำ

3. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Ultraformer MPT สามารถส่งพลังงานลงไปลึกถึง ชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า เมื่อพลังงานถูกส่งลงไป ชั้น SMAS จะเกิดการหดตัว และกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง และผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น

4. แก้ปัญหาผิวหน้าและลำตัวได้ในเครื่องเดียว

Ultraformer MPT สามารถใช้ได้ทั้งบน ใบหน้าและร่างกาย ทำให้เป็นเครื่องมือที่ครอบคลุมที่สุดเครื่องหนึ่งในปัจจุบัน สามารถช่วยยกกระชับหน้า ลดเหนียง ลดไขมันสะสมที่แก้ม เก็บกรอบหน้าให้ชัดขึ้น รวมถึงลดไขมันส่วนเกินบริเวณร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และรอบเอว

5. ไม่มีแผล ไม่มีรอยเข็ม ไม่ต้องพักฟื้น

การทำ Ultraformer MPT ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องทำการผ่าตัด จึงไม่มีบาดแผลและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

6. เห็นผลไวและผลลัพธ์อยู่ได้นาน

Ultraformer MPT ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว โดยหลังทำจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 20% และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 1-3 เดือน ผลลัพธ์ของการยกกระชับสามารถคงอยู่ได้นานสูงสุด 8-12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล

Ultraformer MPT เหมาะกับใครบ้าง?

Ultraformer MPT เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านความงามหลายประการ โดยเฉพาะในด้านการยกกระชับและการลดไขมันส่วนเกิน ดังนี้:

• ผู้ที่มีปัญหา ผิวหย่อนคล้อย และต้องการยกกระชับใบหน้า ลำคอ

• ผู้ที่ต้องการ ลดไขมันส่วนเกิน เช่น แก้ม เหนียง หน้าท้อง

• ผู้ที่มี ริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา ร่องแก้ม หรือมุมปาก

• ผู้ที่ต้องการ กระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวเต่งตึงขึ้น

• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ เรียวกระชับ กรอบหน้าคมชัด

การใช้ Ultraformer MPT จะช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้สามารถปรับปรุงสภาพผิวและรูปร่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Ultraformer MPT สามารถแก้ปัญหาผิวบริเวณไหนได้บ้าง?

Ultraformer MPT สามารถใช้ได้ทั้ง ใบหน้าและลำตัว โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก

1. ใบหน้าและลำคอ

• ลดริ้วรอยบนหน้าผาก และช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน

• ลดริ้วรอยรอบดวงตาและช่วยยกหางตา

• ยกคิ้วให้ดูเปิดขึ้น และทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น

• กระชับแก้มและลดร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น

• ลดไขมันบริเวณเหนียงและใต้คาง ทำให้กรอบหน้าดูชัดเจนขึ้น

• กระชับผิวลำคอ และลดรอยย่นบริเวณคอ

2. ลำตัว

• ลดไขมันต้นแขน และกระชับผิวบริเวณแขน

• ลดไขมันสะสมที่หน้าท้อง และช่วยกระชับผิว

• กระชับรอบเอวและสะโพก ลดไขมันสะสม

• ลดไขมันต้นขาและน่อง ทำให้ขาดูเรียวขึ้น

• ลดเซลลูไลท์บริเวณแผ่นหลัง และกระชับผิว

การเตรียมตัวก่อนทำ Ultraformer MPT

• งดวิตามินและอาหารเสริม ที่ทำให้เลือดออกง่าย เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี อย่างน้อย 1 สัปดาห์

  การงดอาหารเสริมเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกหรือฟกช้ำในระหว่างและหลังการทำหัตถการ

• แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว หรือเคยทำหัตถการอื่น ๆ มาก่อน

  การให้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม

• พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนทำ เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

  การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายมีความพร้อมในการฟื้นตัวหลังการทำหัตถการ และการดื่มน้ำช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น

ขั้นตอนการทำ Ultraformer MPT

1. ทำความสะอาดผิวหน้า และแปะยาชา ทิ้งไว้ประมาณ 45-60 นาที

   ในขั้นตอนนี้จะมีการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างละเอียด เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทำหัตถการ โดยจะมีการใช้ยาชาเพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายระหว่างการทำ Ultraformer MPT

2. เริ่มทำหัตถการ แพทย์จะปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิว โดยใช้เวลา 30-45 นาที

   ในขั้นตอนนี้ แพทย์จะใช้เครื่อง Ultraformer MPT ทำการรักษา โดยจะมีการปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับประเภทและสภาพของผิวของแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

3. ระหว่างทำ อาจรู้สึกอุ่น ๆ หรือจี๊ด ๆ เล็กน้อย (แต่ไม่เจ็บมาก)

   ในระหว่างการทำหัตถการ ผู้เข้ารับการรักษาอาจรู้สึกถึงความร้อนหรือการกระตุ้นที่เกิดจากเครื่องมือ แต่โดยทั่วไปจะไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก เนื่องจากมีการใช้ยาชาช่วยในการลดความรู้สึก

4. หลังทำเสร็จ สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น

   หลังจากการทำ Ultraformer MPT เสร็จสิ้น ผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหรือมีการดูแลหลังการทำที่ยุ่งยาก

การดูแลตัวเองหลังทำ Ultraformer MPT เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หลังจากทำ Ultraformer MPT ผิวจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูและสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะในช่วง 4-5 วันแรก หลังทำ ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวมีความอ่อนไหวและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

1. หลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่า แช่น้ำร้อน หรือโดนแดดจัด เป็นเวลา 4-5 วัน

เนื่องจากพลังงานจาก Ultraformer MPT ได้ส่งความร้อนลงไปในชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หากได้รับความร้อนเพิ่มเติมจากภายนอก อาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดอาการบวมแดงมากขึ้น จึงควรงดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น

• ซาวน่า และ อบไอน้ำ เพราะอุณหภูมิที่สูงอาจทำให้ผิวบวมและอักเสบ

• การอาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำร้อน ควรอาบน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อไม่ให้ผิวระคายเคือง

• การออกแดดจัดโดยไม่ป้องกัน เพราะแสงแดดอาจกระตุ้นการอักเสบของผิวที่ยังไม่ฟื้นตัวดี

2. ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

การดื่มน้ำมากขึ้นหลังทำ Ultraformer MPT มีส่วนช่วยอย่างมากในการฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร เพราะน้ำจะช่วยให้เซลล์ผิวทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนมากขึ้น

3. หากมีอาการบวมแดงเล็กน้อย สามารถประคบเย็นได้

หลังทำ Ultraformer MPT บางคนอาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของผิวที่ตอบสนองต่อพลังงานคลื่นเสียง หากรู้สึกว่าผิวมีอาการบวมมากกว่าปกติ สามารถใช้ผ้าสะอาดห่อเจลเย็นและประคบบริเวณที่มีอาการบวมได้ แต่ไม่ควรใช้น้ำแข็งสัมผัสผิวโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

4. ทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันแสงแดดทำร้ายผิว

ผิวหลังทำ Ultraformer MPT จะไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปกป้องผิวจากรังสี UV เพื่อป้องกัน จุดด่างดำ ฝ้า กระ และริ้วรอยก่อนวัย ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 50+ และ PA++++ และต้องทาซ้ำระหว่างวันหากต้องออกแดด

ทำ Ultraformer MPT นานไหมกว่าจะเห็นผล?

Ultraformer MPT ให้ผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไป และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในช่วงเวลาต่าง ๆ ดังนี้

1. เห็นผลทันที 20% หลังทำ

หลังทำเสร็จทันที จะรู้สึกได้ว่าผิวมีความกระชับขึ้นเล็กน้อย เพราะชั้น SMAS ที่ถูกกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงจะหดตัว ทำให้ใบหน้าดูยกขึ้น

2. เห็นผลชัดเจนภายใน 1-3 เดือน

ในช่วง 1-3 เดือนแรก ผิวจะค่อย ๆ ฟื้นตัว และเริ่มมีการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวกระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง และใบหน้าดูเฟิร์มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

3. ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิว

ระยะเวลาที่ผลลัพธ์จะคงอยู่ขึ้นอยู่กับ พฤติกรรมการดูแลผิวและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน หากดูแลตัวเองดี เช่น ทาครีมกันแดด ดื่มน้ำเพียงพอ และรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานขึ้น

หากต้องการ รักษาผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้น แนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและคงความกระชับของผิวอย่างต่อเนื่อง

Ultraformer MPT กับเทคโนโลยียกกระชับอื่น ๆ แตกต่างกันอย่างไร?

เทคโนโลยี	หลักการทำงาน	จุดเด่น	ระยะเวลาผลลัพธ์
Ultraformer MPT	คลื่นอัลตราซาวด์ MMFU	ยิงเร็วขึ้น 2.5 เท่า เจ็บน้อย กระตุ้นคอลลาเจน	8-12 เดือน
Ulthera SPT	คลื่นอัลตราซาวด์ MFU-V	เห็นชั้นผิวแบบเรียลไทม์ เหมาะกับการยกกระชับลึก ๆ	1 ปี
New Thermage FLX	คลื่นวิทยุ RF	ปรับผิวให้กระชับ ลดไขมันใต้ผิวได้ดี	1 ปี

Ultraformer MPT จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ ยกกระชับหน้า + สลายไขมัน + กระตุ้นคอลลาเจนในเครื่องเดียว

สรุป

Ultraformer MPT เป็นนวัตกรรมยกกระชับที่ช่วยให้หน้าเรียว ลดไขมัน และกระชับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีแผล เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์แบบธรรมชาติ หากสนใจควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง 💙✨